ทำความรู้จักกับ ธนินท์ เจียรวนนท์
ธนินท์ เจียรวนนท์ คือ ชื่อที่สั่นสะเทือนวงการธุรกิจไทยมาหลายทศวรรษ ในฐานะผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่เกษตรกรรมไปจนถึงโทรคมนาคม การเดินทางของจากลูกชายคนสุดท้องของครอบครัวผู้อพยพชาวจีน สู่การเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย เป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากมาย
ปัจจุบัน ธนินท์ได้รับการยกย่องให้เป็น “ผู้สูงอายุแห่งชาติ” ในวัย 85 ปี เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณูปการที่มีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย ภายใต้การนำของ เครือซีพีได้เติบโตจากธุรกิจครอบครัวเล็กๆ กลายเป็นบริษัทข้ามชาติที่มีการลงทุนใน 21 ประเทศทั่วโลก ด้วยแนวคิด “3 ประโยชน์” ที่มุ่งสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท
นอกเหนือจากความสำเร็จทางธุรกิจ ธนินท์ยังเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล โดยเฉพาะการเป็นผู้บุกเบิกการลงทุนในประเทศจีนตั้งแต่ยุคแรกที่จีนเปิดประเทศ ทำให้ซีพีกลายเป็นบริษัทต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในจีน การตัดสินใจครั้งสำคัญเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความกล้าและสายตาที่มองการณ์ไกลของ
ข้อมูลส่วนตัว
- ชื่อเต็ม: ธนินท์ เจียรวนนท์
- เกิด: 19 เมษายน พ.ศ. 2482
- สถานที่เกิด: ย่านเยาวราช กรุงเทพมหานคร
- อายุปัจจุบัน: 85 ปี
- สัญชาติ: ไทย
- เชื้อชาติ: จีน (แต้จิ๋ว)
- อาชีพ: นักธุรกิจ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์
ความสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดและสิ่งที่ทำให้เป็นที่รู้จัก
ความสำเร็จในการสร้างเครือซีพีระดับโลก
- นำเครือซีพีจากธุรกิจครอบครัวสู่บริษัทข้ามชาติที่มีการลงทุนใน 21 ประเทศ
- พัฒนาระบบการผลิตแบบครบวงจรในธุรกิจเกษตร ตั้งแต่อาหารสัตว์ถึงอาหารสำเร็จรูป
- ขยายธุรกิจครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม ทั้งค้าปลีก โทรคมนาคม และอสังหาริมทรัพย์
- สร้างรายได้รวมของกลุ่มบริษัทมากกว่า 2 ล้านล้านบาทต่อปี
การบุกเบิกตลาดจีน
- เป็นบริษัทต่างชาติรายแรกๆ ที่เข้าลงทุนในจีนหลังเปิดประเทศ
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำจีน จนได้รับสิทธิพิเศษในการลงทุน
- พัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมในจีนกว่า 200,000 เฮกตาร์
- กลายเป็นบริษัทต่างชาติที่มีการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดในจีน
การปฏิวัติวงการค้าปลีกไทย
- นำ 7-11เข้าสู่ประเทศไทยในปี 2532
- พัฒนาจนมีสาขากว่า 12,000 แห่งทั่วประเทศ
- ขยายธุรกิจผ่านสยามแม็คโคร สร้างมาตรฐานใหม่ในธุรกิจค้าส่ง
- เข้าซื้อกิจการเทสโก้ โลตัส มูลค่ากว่า 3.3 แสนล้านบาท

การได้รับการยอมรับในสังคม
- ได้รับการยกย่องเป็น “ผู้สูงอายุแห่งชาติ” ปี 2567
- เป็นที่รู้จักจากแนวคิด “3 ประโยชน์” – ประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท
- สร้างงานให้คนไทย นับแสนตำแหน่ง
- มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย
ทำไมเรื่องราวของบุคคลนี้ถึงน่าสนใจ
เรื่องราวชีวิตของธนินท์ เจียรวนนท์ สะท้อนให้เห็นหลายมิติที่น่าสนใจและเป็นแรงบันดาลใจ
การพลิกโฉมธุรกิจครอบครัวสู่บริษัทระดับโลก
- เรื่องราวของเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของการพัฒนาธุรกิจครอบครัวจากร้านค้าเล็กๆ ในเยาวราชสู่บริษัทข้ามชาติระดับโลก
- แสดงให้เห็นว่าด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและความกล้าตัดสินใจ ธุรกิจไทยสามารถก้าวขึ้นไปแข่งขันในเวทีระดับโลกได้
ความกล้าที่จะเป็นผู้บุกเบิก
- การตัดสินใจเข้าไปลงทุนในประเทศจีนตั้งแต่ยุคแรกที่เปิดประเทศ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความกล้าที่จะเสี่ยง
- ในขณะที่นักธุรกิจส่วนใหญ่ยังลังเลที่จะเข้าไปลงทุน มองเห็นโอกาสและกล้าที่จะคว้าโอกาสนั้นไว้
การผสมผสานคุณค่าดั้งเดิมกับนวัตกรรมสมัยใหม่
- แสดงให้เห็นว่าสามารถรักษาคุณค่าดั้งเดิมของธุรกิจครอบครัว เช่น ความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบต่อสังคม ไปพร้อมกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพัฒนาธุรกิจ
จุดเริ่มต้นธนินท์ เจียรวนนท์

ประวัติและพื้นฐานครอบครัว
- ธนินท์ เจียรวนนท์ เกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2482 ที่ย่านเยาวราช กรุงเทพมหานคร
- เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 9 คน (ชาย 4 คน หญิง 5 คน) ของนายเอ็กชอ แซ่เจี๋ย และนางกิมกี่ แซ่ตั้ง
- บิดามารดาเป็นชาวจีนแต้จิ๋วที่อพยพมาตั้งรกรากในประเทศไทย
- นายเอ็กชอ แซ่เจี๋ย บิดาของธนินท์ เกิดที่อำเภอเถ่งไฮ่ เมืองแต้จิ๋ว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
- ครอบครัวเป็นเจ้าของที่ดิน จากนั้นได้เดินทางมาประเทศไทยในปี พ.ศ. 2462 และตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เยาวราช
- ครอบครัวได้ทำธุรกิจนำเข้าเมล็ดพันธุ์ผักมาจากจีน เพื่อขายให้ร้านค้าปลีก
- หลังจากนั้นขยับขยายเป็นธุรกิจของตัวเองในปี 2464 ภายใต้ชื่อ “ร้านเจียไต๋จึง”
บทบาทสำคัญในการสร้างและขยายกิจการเครือเจริญโภคภัณฑ์
พี่น้องของธนินท์ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างและขยายกิจการเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แก่
- จรัญ เจียรวนนท์ พี่ชายคนโตที่เริ่มทำธุรกิจอาหารสัตว์ในปี พ.ศ. 2496 และตั้งบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ โดยมี มนตรี พี่ชายคนรองคอยช่วยเหลือ
- สุเมธ เจียรวนนท์ พี่ชายคนที่ 3 ผู้ใช้นามสกุล “เจียรวนนท์” เป็นคนแรก
- มนตรี เจียรวนนท์ พี่ชายคนที่ 2 ที่ช่วยขยายธุรกิจโรงงานและการค้าสินค้าเกษตร
- ด้วยความร่วมมือของพี่น้องทั้งหมด ทำให้เครือเจริญโภคภัณฑ์เติบโตอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ อันได้แก่ อาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ อุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น
การสมรสและบุตร
- ธนินท์ เจียรวนนท์ สมรสกับ คุณหญิงเทวี
- มีบุตรด้วยกัน 5 คน ประกอบด้วย
- นางวรรณี เจียรวนนท์ รอสส์
- นายสุภกิต เจียรวนนท์
- นายณรงค์ เจียรวนนท์
- นายศุภชัย เจียรวนนท์
- นางทิพาภรณ์ อริยวรารมย์
ส่งต่อธรุกิจ
- ในปี พ.ศ. 2562 หลังจากธนินท์บริหารงานเครือเจริญโภคภัณฑ์มานานกว่า 50 ปี
- เขาได้ส่งไม้ต่อให้ลูกชายทั้งสามสานต่อธุรกิจ
- มีการแต่งตั้งให้ สุภกิต เป็นประธาน ศุภชัยเป็นซีอีโอ และณรงค์เป็นรองประธาน
ธุรกิจในกลุ่มเครือซีพี
- ธุรกิจในกลุ่มเครือซีพียังได้ขยายไปสู่อีกหลายสาขา เช่น ซีพี ออลล์ สยามแม็คโคร ทรู คอร์ปอเรชั่น ฯลฯ
- ตลอดจนแตกกิ่งก้านให้ลูกหลานบริหารอีกหลายคน เช่น เซี่ย ปิ่ง ผู้ก่อตั้ง Sino Biopharmaceutical และ CP Pharmaceutical Group

ลักษณะการเลี้ยงดูและความคาดหวังของครอบครัว
- เป็นครอบครัวใหญ่ที่พ่อแม่มีลูกหลายคน แต่สามารถส่งเสียให้ลูกได้เรียนหนังสือในระดับสูง แสดงให้เห็นว่าครอบครัวให้ความสำคัญกับการศึกษา และคาดหวังให้ลูกมีความรู้ความสามารถเพื่อประสบความสำเร็จในชีวิต
- ลูกชายหลายคนเข้ามาช่วยกิจการที่บ้านตั้งแต่อายุยังน้อย บ่งชี้ว่าพ่อแม่ต้องการปลูกฝังเรื่องความรับผิดชอบ ขยันทำงาน และสืบทอดธุรกิจครอบครัว แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้ลูกแต่ละคนได้ทำหน้าที่ในส่วนที่ถนัด ไม่ได้บังคับจนเกินไป
- ลูกชายคนเล็กอย่างธนินท์เองก็ได้รับโอกาสในการเรียนรู้งานและพิสูจน์ความสามารถ จนได้เป็นผู้นำในการบริหารและขยายกิจการให้เติบโตอย่างมาก แสดงว่าพ่อแม่เปิดกว้างที่จะให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ชอบและถนัด โดยมองที่ผลงานมากกว่าลำดับอายุ
- ครอบครัวมีความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันทำธุรกิจ คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน น่าจะเป็นค่านิยมที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้แต่ละคนได้แสดงความสามารถเฉพาะตัว
- เมื่อธนินท์เข้าสู่วัยชรา ก็วางแผนส่งต่อธุรกิจให้ลูกชายอย่างเป็นระบบ โดยมอบหมายตำแหน่งสำคัญให้ลูกแต่ละคนตามความถนัด แสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับครอบครัว
“จากข้อมูลที่มี สะท้อนให้เห็นว่า ครอบครัวเจียรวนนท์น่าจะเลี้ยงดูแบบค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องความรับผิดชอบ การศึกษา และการทำงานหนัก มีความคาดหวังให้ลูกได้ทำหน้าที่สืบทอดและขยายกิจการครอบครัว แต่ก็ไม่ได้กดดันหรือบังคับจนเกินไป ยังเปิดโอกาสให้ลูกแต่ละคนได้ใช้ความสามารถตามความถนัดของตน และเน้นย้ำเรื่องความสามัคคีในครอบครัวควบคู่ไปด้วย”
การศึกษาของ ธนินท์ เจียรวนนท์
- พ.ศ. 2482 – ธนินท์ เจียรวนนท์เกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่กรุงเทพมหานคร
- พ.ศ. 2488-2492 – ระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
- พ.ศ. 2492-2494 – ระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนซัวเถา ประเทศจีน เพื่อฝึกฝนภาษาจีน
- พ.ศ. 2494-2499 – ระดับอุดมศึกษา ด้านพาณิชยกรรม ที่สถาบันศึกษาฮ่องกงวิทยาลัย เพื่อเรียนรู้ธุรกิจการค้ามากขึ้น
- พ.ศ. 2529 – ได้รับปริญญาเทคโนโลยีการเกษตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารธุรกิจการเกษตร จากสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ เชียงใหม่
- พ.ศ. 2531 – ได้รับปริญญาพาณิชยศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- พ.ศ. 2532 – ผ่านการอบรมหลักสูตรภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 1 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
- พ.ศ. 2533 – ได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
- พ.ศ. 2534 – ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ด้านเกษตรศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และด้านการตลาดจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ประเทศจีน
- พ.ศ. 2538 – ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารธุรกิจ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และสาขาการเกษตร จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
- พ.ศ. 2543 – ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- พ.ศ. 2547 – ได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาเทคโนโลยีการเกษตร จากสถาบันราชภัฏจันทรเกษม
- พ.ศ. 2551 – ได้รับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยคริสเตียน และปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- พ.ศ. 2565 – ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาธุรกิจ-นวัตกรรม จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
แรงบันดาลใจและเป้าหมายชีวิตของธนินท์ เจียรวนนท์
แรงผลักดันในชีวิต
- แรงบันดาลใจจากความสำเร็จของบิดาในการสร้างธุรกิจจากเล็กสู่ใหญ่
- ความรับผิดชอบในการรักษาและต่อยอดมรดกทางธุรกิจของครอบครัว
- ความปรารถนาที่จะพัฒนาประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย
- ความมุ่งมั่นที่จะสร้างองค์กรระดับโลกที่คนไทยภาคภูมิใจ
- แรงขับเคลื่อนจากหลักการ “3 ประโยชน์” – ต่อประเทศ ประชาชน และบริษัท
เป้าหมายสูงสุดในชีวิต
- สร้างเครือซีพีให้เป็นบริษัทข้ามชาติชั้นนำของโลก
- พัฒนาระบบธุรกิจที่ยั่งยืนและส่งต่อสู่คนรุ่นต่อไป
- ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการเกษตรของไทย
- สร้างงานและโอกาสให้กับคนไทยจำนวนมาก
- เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ความชอบ
- การศึกษาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อยู่เสมอ
- การติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม
- การพัฒนาและปรับปรุงระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
- การเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญ
- การวางแผนกลยุทธ์และการพัฒนาองค์กร
ความหลงใหล
- การสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน
- การพัฒนาบุคลากรและสร้างผู้นำรุ่นใหม่
- การคิดค้นนวัตกรรมเพื่อพัฒนาธุรกิจ
- การสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติ
- การเรียนรู้ตลอดชีวิตและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
เรื่องราวการทำงานของ ธนินท์ เจียรวนนท์

ประวัติการทำงาน
พ.ศ. 2501 (อายุ 19 ปี)
- เริ่มต้นชีวิตการทำงานครั้งแรกในตำแหน่งแคชเชียร์ที่ร้านเจริญโภคภัณฑ์ของครอบครัวในย่านเยาวราช หลังสำเร็จการศึกษาด้านพาณิชยกรรมจากฮ่องกง เป็นการเริ่มสั่งสมประสบการณ์และเรียนรู้งานตั้งแต่ระดับล่างสุดในองค์กร
พ.ศ. 2501-2506
- ย้ายไปทำงานที่สหพันธ์สหกรณ์ค้าไข่แห่งประเทศไทย และบริษัท สหสามัคคีค้าสัตว์ จำกัด ซึ่งทำให้ได้เรียนรู้การทำงานด้านที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ การทำงานร่วมกับนักวิชาการ ตลอดจนการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ จากต่างประเทศมาใช้
พ.ศ. 2507 (อายุ 25 ปี)
- กลับมาทำงานที่เครือเจริญโภคภัณฑ์อีกครั้ง โดยเริ่มแสดงความสามารถในการบริหารและพัฒนาธุรกิจตั้งแต่ยังเป็นช่วงเริ่มต้นของเครือฯ ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบริหารทั่วไปและการตลาด
พ.ศ. 2510
- ช่วยวางรากฐานความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอาหารสัตว์ ด้วยการควบคุมคุณภาพการผลิต การทำสูตรอาหารเม็ดสำเร็จรูป การขยายงานด้วยการซื้อเครื่องจักรใหม่ และการเปลี่ยนกลยุทธ์การขายเป็นเชิงรุกมากขึ้น จนสามารถขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศได้
พ.ศ. 2521
- เป็นกำลังสำคัญในการนำเครือเจริญโภคภัณฑ์เข้าสู่ธุรกิจการค้าปลีกครั้งแรกด้วยร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven โดยเป็นผู้เจรจานำแฟรนไชส์ดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทย
- ก่อนขยายสาขาจนประสบความสำเร็จอย่างสูง และต่อยอดไปสู่ธุรกิจค้าส่งแบบศูนย์จำหน่ายสินค้าอีกด้วย
พ.ศ. 2530 – 2540
- ธนินท์เป็นแกนหลักในการนำพาเครือเจริญโภคภัณฑ์ก้าวไปสู่การเป็นบรรษัทข้ามชาติ (MNC) ด้วยการขยายการลงทุนไปยังประเทศจีน ซึ่งเพิ่งเปิดประเทศ รวมทั้งประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชีย
- ด้วยความสัมพันธ์อันดีและชื่อเสียงของธนินท์ ทำให้ซีพีกลายเป็นบริษัทต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในจีน นับเป็นความสำเร็จสำคัญในการสร้างฐานธุรกิจที่มั่นคงในต่างแดน
พ.ศ. 2540 – 2550
- ธนินท์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางกลยุทธ์และการเติบโตของเครือซีพีอย่างต่อเนื่อง มีการขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ มากมาย ทั้งด้านการเงินการธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ สื่อสารโทรคมนาคม ปิโตรเคมี ยานยนต์ ฯลฯ
- จนเครือซีพีกลายเป็นองค์กรธุรกิจชั้นนำที่ครอบคลุมหลากหลายสาขา ด้วยมูลค่ามหาศาลและเครือข่ายที่แผ่ขยายไปทั่วโลก
พ.ศ. 2550 – 2560
- ธนินท์ยังคงเป็นผู้นำของเครือซีพี มีบทบาทสำคัญในการกำกับทิศทางการดำเนินธุรกิจและการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ที่จะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
- พร้อมกันนั้นก็เริ่มวางแผนถ่ายทอดอำนาจและส่งมอบธุรกิจให้กับทายาทรุ่นต่อไป
พ.ศ. 2560 – ปัจจุบัน
- แม้จะอายุมากแล้ว แต่ธนินท์ยังคงทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคอยให้คำชี้แนะแก่ลูกหลานที่เข้ามารับช่วงสานต่อธุรกิจ
- ขณะเดียวกันก็ทุ่มเทให้กับกิจกรรมการกุศลและการคืนกำไรสู่สังคมมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดตั้งมูลนิธิในเครือฯ ที่ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในด้านต่างๆ ทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุข และการพัฒนาคุณภาพชีวิต
นอกจากนี้ ธนินท์ยังได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในองค์กรชั้นนำของประเทศอีกมากมาย อาทิ
- กรรมการธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- อุปนายกและกรรมการ บมจ. ทุนธนชาต
- กรรมการ บมจ. ไทยออยล์
- อุปนายกและอนุกรรมการบริหาร บมจ. อาคเนย์ประกันชีวิต
- อุปนายกและรองประธานกรรมการ บมจ.ธนาคารไทยธนาคาร
- ประธานกรรมการ บจก. การ์ตูนเน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย)
- ประธานกิตติมศักดิ์ หอการค้าไทย-จีน และสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย
- ประธานกรรมการเกียรติคุณ โรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ
ตลอดระยะเวลากว่า 60 ปีในการทำงาน ธนินท์ได้สร้างผลงานที่โดดเด่นในฐานะนักบริหารมืออาชีพ ผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์ มีความสามารถในการสร้างและขยายธุรกิจได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมๆ กับการตอบแทนคืนสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ยอมรับในฐานะต้นแบบแห่งความสำเร็จอย่างแท้จริง
การก่อตั้งบริษัท ธนินท์ เจียรวนนท์
การก่อตั้งและพัฒนาเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ของธนินท์ เจียรวนนท์ มีลำดับเหตุการณ์สำคัญดังนี้
- พ.ศ. 2464 – ร้านเจียไต๋จึง หรือ ร้านขายเมล็ดพันธุ์ของเจี่ย เอ็กชอ (บิดาของธนินท์) ก่อตั้งขึ้นที่ย่านทรงวาด กรุงเทพฯ
- ปลาย พ.ศ. 2490 – บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ถือกำเนิดขึ้นในยุคของพี่ชายธนินท์ ขยายจากธุรกิจเมล็ดพันธุ์เป็นอาหารสัตว์
- พ.ศ. 2507 – ธนินท์ เข้ามาบริหารเจริญโภคภัณฑ์ในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ดูแลการผลิต การตลาด และพัฒนาสูตรอาหาร
- ธนินท์นำระบบ “ครบวงจร” มาใช้ในธุรกิจไก่เป็นรายแรก ทำทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทำให้ต้นทุนลดลงและควบคุมคุณภาพได้ จากนั้นก็ขยายไปสู่ธุรกิจหมู กุ้ง และอื่นๆ
- เครือซีพีมีการขยายธุรกิจการค้าปลีก เช่น ดีลกับ 7-11, การเปิดแม็คโคร และห้างโลตัส ซึ่งช่วยในการทำธุรกิจให้ครบวงจรได้
- ในธุรกิจกุ้ง ธนินท์ขยายไปสู่การแปรรูป สร้างแบรนด์ของตัวเอง และส่งออก สู่ยุทธศาสตร์ “ครัวโลก” นับเป็นการต่อยอดจากแค่ส่งออกวัตถุดิบ
- พ.ศ. 2533 – ซีพีเริ่มเข้าสู่ธุรกิจโทรคมนาคม โดยได้รับเลือกให้ทำโครงการขยายโทรศัพท์พื้นฐาน 2 ล้านเลขหมายในนาม บริษัท เทเลคอมเอเชีย
- หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง พ.ศ. 2540 – เทเลคอมเอเชียก้าวเข้าสู่ธุรกิจมือถือ จับมือออเร้นจ์ จัดตั้ง ที.เอ. ออเร้นจ์ ทำให้มีผู้ให้บริการเพิ่มเป็น 3 ราย
- ต่อมา ที.เอ. ออเร้นจ์ เปลี่ยนเป็น ทรูมูฟ และ เทเลคอมเอเชีย เปลี่ยนเป็น ทรู คอร์ปอเรชั่น กลายเป็นผู้เล่นหลักในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
- ปัจจุบัน เครือซีพีมีธุรกิจครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งการเกษตรอาหาร ค้าปลีก โทรคมนาคม อีคอมเมิร์ซ อสังหาฯ ยานยนต์ ยาเวชภัณฑ์ และการเงิน โดยมีบริษัทในเครือกว่า 200 บริษัท ลงทุนใน 21 ประเทศ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP)
เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความหลากหลาย แบ่งเป็น 8 กลุ่มธุรกิจหลัก
การเกษตรและอาหาร
- บริษัทสำคัญ: เจียไต๋, CPF, ข้าว ซี.พี.
- ผลิตภัณฑ์: ปุ๋ย, เมล็ดพันธุ์, อาหารสัตว์, ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์, อาหารแปรรูป, ข้าว
ธุรกิจค้าปลีก
- บริษัทสำคัญ: CP ALL (7-Eleven), Siam Makro, C.P. Lotus
- รูปแบบ: ร้านสะดวกซื้อ, ศูนย์ค้าส่ง, ห้างสรรพสินค้า
การสื่อสารและโทรคมนาคม
- บริษัทหลัก: True Corporation
- บริการ: อินเทอร์เน็ต, โทรศัพท์มือถือ, โทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก
อีคอมเมิร์ซและธุรกิจดิจิทัล
- บริษัทสำคัญ: Ascend Group, Pantavanij
- บริการ: ร้านค้าออนไลน์, บริการการเงินดิจิทัล, ตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์
ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
- บริษัทหลัก: CP Land
- โครงการ: อาคารสำนักงาน, ศูนย์การค้า, โรงแรม, ที่อยู่อาศัย
ธุรกิจยานยนต์
- บริษัทสำคัญ: SAIC-CP Motor, Luoyang Northern EK Chor
- ผลิตภัณฑ์: รถยนต์ MG, มอเตอร์ไซค์ DAYANG
ธุรกิจเวชภัณฑ์
- บริษัทหลัก: Sino Biopharmaceutical
- ผลิตภัณฑ์: ยารักษาโรคตับอักเสบ, ยาเกี่ยวกับระบบหัวใจและสมอง
การเงินและการธนาคาร
- บริษัทสำคัญ: Zhengxin Bank, Ping An Insurance
- บริการ: ธนาคาร, ประกันภัย, การลงทุน
เส้นทางสู่ความสำเร็จของธนินท์ เจียรวนนท์
ความสำเร็จของเจ้าสัวธนิน ที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้วัดด้วยตัวเลขทางการเงินเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสร้างประโยชน์และความยั่งยืนให้กับสังคมด้วย
ความสำเร็จและรางวัล

10 ผลงานที่สำคัญ
อันดับที่ 1: การสร้างระบบครบวงจรในธุรกิจการเกษตรและอาหาร
- เริ่มต้นจากธุรกิจอาหารสัตว์ ขยายสู่การเลี้ยงสัตว์ในระบบ Contract Farming
- ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อควบคุมคุณภาพและประสิทธิภาพการผลิตทุกขั้นตอน
- ทำให้สามารถลดต้นทุนและขายในราคาที่ผู้บริโภคสามารถซื้อหาได้ง่ายขึ้น
- รูปแบบครบวงจรนี้ถูกนำไปขยายสู่ธุรกิจอื่นๆ อาทิ ธุรกิจหมู กุ้ง เป็นต้น
อันดับที่ 2: การผลักดันแบรนด์อาหารซีพี CP สู่ตลาดโลก
- วางยุทธศาสตร์ “ครัวโลก” มุ่งสร้างแบรนด์และพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป
- ไม่จำกัดตัวเองแค่การส่งออกวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
- เน้นนวัตกรรมและงานวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
- ขยายฐานการผลิตและแหล่งวัตถุดิบไปในหลายประเทศ เพื่อให้สามารถส่งออกไปทั่วโลก
อันดับที่ 3: การซื้อกิจการ 7-11 7 – 11 เข้ามาในประเทศไทย
- เล็งเห็นโอกาสในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ นำเซเว่นฯ เข้ามาเมื่อปี 2532
- ปัจจุบันขยายสาขาไปแล้วกว่า 12,000 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศไทย
- มีผลประกอบการปี 2563 สำหรับเซเว่นฯ และบริษัทย่อย 5.35 แสนล้านบาท
- กลายเป็นหนึ่งในผู้นำค้าปลีกของไทยและเป็นธุรกิจหลักของเครือซีพี
อันดับที่ 4: การนำพาซีพี ออลล์ CP ALL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
- นำหุ้นซีพี ออลล์ เข้าเทรดในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2531
- ทำให้เป็นที่รู้จักในฐานะหุ้นขนาดใหญ่บลูชิพของเมืองไทย
- ปัจจุบันมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงถึง 3.62 แสนล้านบาท (31 มี.ค. 65)
- ถือเป็นการระดมทุนที่ช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกขยายตัวได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
อันดับที่ 5: การเข้าซื้อกิจการเทสโก้ โลตัส จากเทสโก้ สหราชอาณาจักร
- ในปี 2564 ซีพีซื้อกิจการค้าปลีกเทสโก้ โลตัส ทั้งในไทยและมาเลเซีย
- มูลค่ารวมของดีลนี้สูงถึง 3.3 แสนล้านบาท ถือเป็นดีลข้ามชาติครั้งใหญ่
- ทำให้บริษัท สยามแม็คโคร ได้เป็นเจ้าของโลตัสในไทย ขณะที่โลตัสในมาเลเซียขายให้บริษัทในเครือ
- การซื้อโลตัส ส่งผลให้ซีพีเพิ่มอำนาจผูกขาดในอุตสาหกรรมค้าปลีกอย่างมาก
อันดับที่ 6: การควบรวมบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กับ ดีแทค
- ทรูซึ่งเป็นบริษัทในเครือซีพี จับมือกับดีแทคของเทเลนอร์ในดีลควบรวม
- เมื่อรวมกันเสร็จจะกลายเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมอันดับหนึ่งของไทย
- มีส่วนแบ่งการตลาดบริการมือถือกว่า 50% แซงหน้า AIS ไปได้
- จะเกิดการประหยัดต่อขนาด ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน เพิ่มกำไรให้กับทรูในระยะยาว
อันดับที่ 7: การนำซีพีไปลงทุนในประเทศจีนตั้งแต่เนิ่นๆ
- เครือซีพีเข้าลงทุนในจีนตั้งแต่ยุคแรกเมื่อประมาณปี 2522
- ในปี 2532 ซีพีได้รับอนุญาตเป็นบริษัทต่างชาติรายแรกที่เข้าไปตั้งโรงงานในเซินเจิ้น
- ปัจจุบันซีพีเป็นเจ้าของธุรกิจเกษตรและอาหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจีน
- ปี 2564 เครือซีพีมีรายได้จากธุรกิจในจีนสูงถึง 7.55 แสนล้านบาท และยังโตต่อเนื่อง
อันดับที่ 8: การผลักดันซีพีเอฟ สู่การเป็นผู้นำด้านอาหารระดับโลก
- ปี 2564 ซีพีเอฟมีรายได้จากการขาย 5.12 แสนล้านบาท
- มีฟาร์มไก่ หมู กุ้ง และโรงงานแปรรูปอาหาร ครอบคลุม 17 ประเทศ
- ผู้นำด้านการส่งออกไก่แปรรูปของโลก มีส่วนแบ่ง 1 ใน 3 ของการส่งออกไก่แปรรูปจากไทย
- มีศูนย์วิจัยและนวัตกรรมอาหารระดับโลกอยู่ที่ไทย เพื่อคิดค้นสูตรอาหารใหม่ๆ
อันดับที่ 9: การผลักดันธุรกิจแม็คโครขยายสาขาทั้งในและนอกประเทศ
- ปัจจุบันมีจำนวนร้านสาขาในไทย 143 สาขา ต่างประเทศ 1 สาขา (กัมพูชา)
- ผลประกอบการยอดขายรวมปี 2564 มีจำนวน 2.21 แสนล้านบาท
- มีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เฉพาะปี 2565 ตั้งเป้าเพิ่มอีก 6 สาขาในไทย
- พร้อมมองหาโอกาสลงทุน M&A ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในต่างประเทศเพิ่มเติม
อันดับที่ 10: การสร้างความหลากหลายผ่านการเข้าไปลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ
- ธุรกิจค้าปลีก: Makro, Lotus, 7-11 รวมทั้งการลงทุนในต่างประเทศ เช่น มินิ C ในจีน
- โทรคมนาคม: True Corp, True Move H, True Online รวมถึงดีลควบรวมกับดีแทค
- e-commerce: กลุ่มแอสเซนด์ ครอบคลุม Ascend Commerce (ช้อปปี้, เจ็ดดาว) และ Ascend Money (ทรูมันนี่ วอลเล็ต)
- อสังหาริมทรัพย์: บริษัทสยามรีเทล ดีเวลล็อปเม้นท์ ผู้บริหารศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21, แม็คโคร, โลตัส ฯลฯ
- ยานยนต์: SAIC Motor-CP, MG Sales (Thailand), Fengxing Vehicles (Shanghai)
รางวัลและเกียรติยศ
- ได้รับการยกย่องเป็น “ผู้สูงอายุแห่งชาติ” ปี 2567
- ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงจากหลายประเทศ
- ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากสถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วโลก
- ได้รับการจัดอันดับเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทย
- ได้รับการยอมรับเป็นผู้นำธุรกิจที่ทรงอิทธิพลในเอเชีย
เคล็ดลับความสำเร็จ

แนวคิดและทัศนคติ
- ยึดหลัก “3 ประโยชน์” ในการดำเนินธุรกิจ
- มองการณ์ไกลและกล้าตัดสินใจในจังหวะที่เหมาะสม
- เรียนรู้และปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
- ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจ
- รักษาความสมดุลระหว่างกำไรกับความรับผิดชอบต่อสังคม
วิธีการทำงานที่ทำให้ประสบความสำเร็จ
- สร้างระบบธุรกิจแบบครบวงจรเพื่อควบคุมคุณภาพและต้นทุน
- พัฒนาพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ
- ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาธุรกิจ
- บริหารความเสี่ยงด้วยการกระจายการลงทุน
- สร้างทีมงานที่มีความสามารถและความเชี่ยวชาญ
แรงสนับสนุน
- ความร่วมมือและสามัคคีในครอบครัว
- ทีมผู้บริหารที่มีความสามารถ
- ความสัมพันธ์อันดีกับภาครัฐและพันธมิตรทางธุรกิจ
- ความไว้วางใจจากลูกค้าและคู่ค้า
- การสนับสนุนจากสถาบันการเงิน
ทักษะและความสามารถพิเศษ
ความสามารถที่โดดเด่น
- วิสัยทัศน์ทางธุรกิจที่กว้างไกล
- ความสามารถในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่
- ทักษะการเจรจาและสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ
- ความเข้าใจในตลาดและเทคโนโลยี
- ภาวะผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจ
ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- การบริหารธุรกิจการเกษตรครบวงจร
- การขยายธุรกิจในต่างประเทศ
- การควบรวมและซื้อกิจการ
- การพัฒนาระบบค้าปลีกสมัยใหม่
- การบริหารองค์กรครอบครัว
ปรัชญาชีวิตและแรงบันดาลใจของธนินท์ เจียรวนนท์
ปรัชญาและแนวคิดในการดำเนินชีวิตของเจ้าสัวนั้น ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลที่มุ่งสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติอีกด้วย

ปรัชญา ความเชื่อ และคติประจำใจ
สิ่งที่ยึดมั่นเชื่อถือ
- “3 ประโยชน์” – ต้องสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติ ประชาชน และบริษัทไปพร้อมกัน
- ความสำเร็จเกิดจากการทำงานหนักและความอดทน ไม่มีทางลัดสู่ความสำเร็จ
- การทำธุรกิจต้องมีคุณธรรม จริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม
- ความสำเร็จที่แท้จริงต้องยั่งยืนและส่งต่อให้คนรุ่นหลังได้
- การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด ต้องพัฒนาตนเองตลอดเวลา
คำคมที่ชอบ
- ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว พรุ่งนี้ต้องสู้ใหม่
- ทำธุรกิจต้องมองไกล ไปให้ถึงระดับโลก
- เงินทองเป็นเพียงผลพลอยได้ สิ่งสำคัญคือการสร้างประโยชน์
- ไม่มีอะไรยาก ถ้าเราพร้อมจะเรียนรู้และลงมือทำ
- คนเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร
แนวคิดที่ยึดถือ
- การสร้างความเติบโตที่ยั่งยืนต้องคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
- นวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญของการพัฒนา
- ความซื่อสัตย์และความไว้วางใจเป็นรากฐานของความสำเร็จ
- การทำงานเป็นทีมและความสามัคคีสร้างพลังให้องค์กร
- ต้องกล้าคิดใหญ่และกล้าทำในสิ่งที่แตกต่าง
บุคคลต้นแบบและไอดอล
- พระบาทสมเด็จรัชกาลที่ 9 – แบบอย่างการทำงาน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม
- บิดา (นายเอ็กชอ แซ่เจี๋ย) – ผู้สอนหลักการทำธุรกิจและความอดทน
- เติ้ง เสี่ยวผิง – ผู้นำการปฏิรูปเปิดประเทศจีน ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
- Lee Kuan Yew – ผู้พัฒนาสิงคโปร์สู่ประเทศชั้นนำของโลก
- Henry Ford – ผู้ปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์
วลีสร้างแรงบันดาลใจ
คำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น
- อย่ากลัวที่จะล้มเหลว ความล้มเหลวคือบทเรียนที่ดีที่สุด
- โอกาสมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง
- เริ่มจากจุดเล็กๆ แต่ต้องมีความฝันที่ยิ่งใหญ่
- ความสำเร็จไม่ได้วัดด้วยเงิน แต่วัดด้วยคุณค่าที่สร้างให้สังคม
- อนาคตไม่ได้มาเอง ต้องสร้างด้วยการลงมือทำวันนี้
วลีเด็ดที่เป็นที่จดจำ
- “ทฤษฎีสองสูง” – ราคาสินค้าเกษตรสูง เงินเดือนขั้นต่ำสูง
- “เมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จ เริ่มจากความซื่อสัตย์”
- “ทำธุรกิจให้โตเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา”
- “เป้าหมายคือดวงดาว แม้ไปไม่ถึง ก็ยังได้ขึ้นไปสูงกว่าเดิม”
- “ความสำเร็จที่ยั่งยืน ต้องสร้างประโยชน์ให้ทุกฝ่าย”
อุปสรรคและบทเรียนชีวิตของธนินท์ เจียรวนนท์
เส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทายมากมาย ตั้งแต่การเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ การแข่งขันที่รุนแรงในตลาด ไปจนถึงความเสี่ยงในการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ แต่ด้วยความมุ่งมั่น ไหวพริบ และความสามารถในการปรับตัว จึงได้เปลี่ยนอุปสรรคเหล่านี้ให้กลายเป็นโอกาสและบทเรียนล้ำค่าได้

ความล้มเหลว ความผิดพลาดและบทเรียนชีวิต
ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุด
- การประเมินตลาดผิดพลาดในช่วงแรกของการลงทุนในธุรกิจค้าปลีก ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่
- การขยายธุรกิจเร็วเกินไปในบางช่วง จนเกิดปัญหาด้านการบริหารจัดการ
- การลงทุนในบางโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540
- การประเมินสถานการณ์ทางการเมืองผิดพลาดในบางประเทศที่เข้าไปลงทุน
- การใช้เวลานานเกินไปในการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลในช่วงแรก
แรงต่อต้าน
- การถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการผูกขาดตลาดและการใช้อิทธิพลทางธุรกิจ
- การต่อต้านจากคู่แข่งในธุรกิจค้าปลีกและโทรคมนาคม
- ความท้าทายในการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมที่แตกต่างในแต่ละประเทศ
- แรงกดดันจากนโยบายภาครัฐที่เปลี่ยนแปลงบ่อย
- การต่อต้านจากชุมชนท้องถิ่นในบางพื้นที่ที่เข้าไปลงทุน
วิธีการก้าวข้ามอุปสรรค
- การสร้างความเข้าใจและการยอมรับ ด้วยการปรับกลยุทธ์และรูปแบบธุรกิจให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์
- สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง
- ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
- พัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโต

บทเรียนสำคัญของชีวิต
- ความสำเร็จต้องอยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์และจริยธรรม
- การปรับตัวและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็น
- ต้องรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจกับความรับผิดชอบต่อสังคม
- ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ
- การวางแผนระยะยาวสำคัญกว่าผลกำไรระยะสั้น
จุดเปลี่ยนในชีวิต
เหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงชีวิต
- การตัดสินใจกลับมาทำงานที่บริษัทครอบครัวในวัย 25 ปี
- การเป็นผู้บุกเบิกการลงทุนในประเทศจีนยุคแรก
- การนำ 7-11เข้ามาในประเทศไทย
- การเผชิญและผ่านพ้นวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540
- การส่งมอบธุรกิจให้ทายาทรุ่นต่อไป
ผลกระทบจากเหตุการณ์นั้น
- เรียนรู้การบริหารธุรกิจขนาดใหญ่ในวัยหนุ่ม
- สร้างเครือข่ายธุรกิจระดับนานาชาติที่แข็งแกร่ง
- ปฏิวัติวงการค้าปลีกในประเทศไทย
- พัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
- วางรากฐานการสืบทอดธุรกิจที่ยั่งยืน
เจาะลึกตัวตน ธนินท์ เจียรวนนท์
เจ้าสัวธนิน เป็นตัวอย่างของผู้นำที่ผสมผสานคุณค่าดั้งเดิมของวัฒนธรรมจีนเข้ากับวิสัยทัศน์ทางธุรกิจสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว อีกทั้งความมุ่งมั่นในการพัฒนาทั้งธุรกิจและสังคม ทำให้ได้รับการยอมรับในฐานะนักธุรกิจผู้มีวิสัยทัศน์และความรับผิดชอบต่อสังคม

วิสัยทัศน์
มีวิสัยทัศน์ที่โดดเด่นในหลายด้าน เช่น
- มองเห็นโอกาสในการลงทุนในจีนตั้งแต่ยุคแรกที่จีนเปิดประเทศ
- พัฒนาธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
- เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาธุรกิจ
- มุ่งสร้างความยั่งยืนทั้งด้านธุรกิจและสังคม
แรงจูงใจ
แรงขับเคลื่อนสำคัญของธนินท์ประกอบด้วย
- ความปรารถนาที่จะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและสังคม
- ความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
- ความต้องการสร้างโอกาสและการจ้างงานให้กับคนไทย
- ความรับผิดชอบในการสืบทอดและต่อยอดมรดกทางธุรกิจของครอบครัว
การตัดสินใจ
ธนินท์มีแนวทางการตัดสินใจที่โดดเด่น ยึดหลักการพิจารณาอย่างรอบคอบแต่กล้าตัดสินใจเด็ดขาดเมื่อถึงเวลา
- ใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์อย่างละเอียดประกอบการตัดสินใจ
- มองการณ์ไกลและคำนึงถึงผลกระทบในระยะยาว
- พิจารณาประโยชน์ของทุกฝ่ายตามหลัก “3 ประโยชน์”
- กล้าตัดสินใจลงทุนขนาดใหญ่เมื่อเห็นโอกาสที่ชัดเจน
มุมมองต่อโลก
“โลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราต้องปรับตัวให้ทัน” คือ ปรัชญาสำคัญของธนินท์ มองว่า
- การเปลี่ยนแปลงคือโอกาสในการพัฒนาและเติบโต
- เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จในอนาคต
- การร่วมมือระหว่างประเทศเป็นสิ่งจำเป็นในโลกธุรกิจสมัยใหม่
- ต้องสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคม
แรงขับเคลื่อน
สิ่งที่ผลักดันให้ประสบความสำเร็จ คือ
- ความมุ่งมั่นที่จะสร้างองค์กรระดับโลก
- ความรับผิดชอบต่อพนักงานและสังคม
- ความปรารถนาที่จะสร้างมรดกทางธุรกิจที่ยั่งยืน
- แรงบันดาลใจจากความสำเร็จของบิดาผู้ก่อตั้ง
บุคลิกภาพ
ธนินท์มีความชอบและความหลงใหล มีความสนใจที่หลากหลาย แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุด คือ
- ความหลงใหลในการพัฒนาธุรกิจและองค์กร
- ความสนใจในเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ
- การศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิต
- การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการสร้างผู้นำรุ่นใหม่
ถ้าสามารถย้อนเวลาได้…
ในปัจจุบันนั้น แม้จะประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ก็ยังมีสิ่งที่เขาอยากปรับปรุงมาตลอด คือ
สิ่งที่อยากแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง
ด้านการศึกษา
- อยากใช้เวลาศึกษาภาษาอังกฤษให้มากกว่านี้ตั้งแต่วัยเยาว์
- ต้องการเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ให้เร็วกว่านี้
- อยากศึกษาด้านการเงินและการลงทุนให้ลึกซึ้งมากขึ้น
- ต้องการใช้เวลากับการเรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติให้มากกว่านี้
- อยากมีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้นำธุรกิจระดับโลกให้มากขึ้น
ด้านการทำธุรกิจ
- อยากเริ่มขยายธุรกิจสู่ดิจิทัลเร็วกว่านี้
- อยากให้มีการกระจายการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้นตั้งแต่แรก
- ต้องการสร้างระบบการบริหารความเสี่ยงที่แข็งแกร่งกว่านี้
- อยากพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ให้เร็วกว่านี้
- อยากสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีของตนเองมากกว่าการซื้อจากต่างประเทศ
บทเรียนจากอดีตที่สำคัญ
บทเรียนด้านการบริหาร
- การตัดสินใจที่รวดเร็วสำคัญกว่าความสมบูรณ์แบบ
- ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจ
- การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจมีความสำคัญต่อการเติบโตระยะยาว
- ต้องรักษาสมดุลระหว่างการขยายธุรกิจกับความมั่นคงทางการเงิน
- การบริหารความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายมีความสำคัญ
บทเรียนด้านการใช้ชีวิต
- ควรใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น
- การดูแลสุขภาพมีความสำคัญไม่แพ้การทำธุรกิจ
- ต้องรักษาสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว
- การสร้างคุณค่าให้สังคมสำคัญกว่าการสะสมความมั่งคั่ง
- ความสุขที่แท้จริงมาจากการได้เห็นผู้อื่นประสบความสำเร็จ
บทสรุป
ชีวิตของธนินท์ เจียรวนนท์ เป็นแรงบันดาลใจและบทเรียนล้ำค่าสำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันถึงความสำเร็จ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าด้วยวิสัยทัศน์ ความมุ่งมั่น และความรับผิดชอบต่อสังคม สามารถสร้างธุรกิจที่ไม่เพียงประสบความสำเร็จ แต่ยังสร้างคุณูปการต่อประเทศชาติและสังคมโลก

ข้อคิดที่ได้จากชีวิต
สรุปบทเรียนสำคัญ
- การสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยมากกว่าการแสวงหากำไร แต่ต้องสร้างคุณค่าและประโยชน์ให้กับสังคมควบคู่กันไป ดังเช่นหลักการ “3 ประโยชน์” ที่ธนินท์ยึดถือมาโดยตลอด หลักการนี้ไม่เพียงสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ แต่ยังสร้างความไว้วางใจและการยอมรับจากสังคม
- ความสำเร็จไม่ได้มาจากความบังเอิญ แต่เกิดจากการวางแผนที่ดี การมองการณ์ไกล และความกล้าที่จะตัดสินใจในจังหวะที่เหมาะสม ดังเช่นการตัดสินใจของธนินท์ในการลงทุนในประเทศจีนตั้งแต่ยุคแรก ซึ่งกลายเป็นการลงทุนที่สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับเครือซีพี
- การเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดนิ่งเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ แม้ในวัย 85 ปี ธนินท์ยังคงติดตามความเปลี่ยนแปลงของโลกและพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ มักกล่าวว่า “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว พรุ่งนี้ต้องสู้ใหม่” สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ประมาทและการมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
แง่คิดที่ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้
- การสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากรากฐานที่แข็งแกร่ง ธนินท์เริ่มต้นเรียนรู้ธุรกิจจากระดับล่างสุด ทำความเข้าใจทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ก่อนจะพัฒนาและต่อยอดธุรกิจให้เติบโต แนวทางนี้สอนให้เราเห็นว่าไม่มีทางลัดสู่ความสำเร็จ แต่ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและการสั่งสมประสบการณ์
- ความกล้าที่จะคิดใหญ่และทำในสิ่งที่แตกต่าง เป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้ประสบความสำเร็จ เมื่อธนินท์ตัดสินใจลงทุนในประเทศจีน หลายคนมองว่าเป็นความเสี่ยงที่สูงเกินไป แต่ด้วยวิสัยทัศน์และความกล้าตัดสินใจ สามารถพลิกความท้าทายให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่
อนาคต
เป้าหมายในอนาคต
- การพัฒนาเครือซีพีให้เป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก โดยเฉพาะในด้านการเกษตรและอาหาร ธนินท์มีวิสัยทัศน์ที่จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงทางอาหารและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร
- การสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ยั่งยืน เชื่อมโยงทุกภาคส่วน ตั้งแต่เกษตรกร ผู้ผลิต ไปจนถึงผู้บริโภค โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวเชื่อมโยง เพื่อสร้างประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน
ความฝันที่ยังไม่สำเร็จ
- การยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านการเกษตรและอาหารของโลก ธนินท์มองว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำในด้านนี้ และต้องการผลักดันให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นของคนไทยเอง
- การสร้างระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้สำหรับเยาวชนไทยทุกคน ผ่านโครงการต่างๆ เช่น ทรูปลูกปัญญา ที่ใช้เทคโนโลยีในการสนับสนุนการเรียนรู้
อิทธิพลและการสร้างความเปลี่ยนแปลง
สิ่งที่ทิ้งไว้ให้โลก
- แนวคิด “3 ประโยชน์” ที่เป็นต้นแบบของการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม แนวคิดนี้ได้รับการยอมรับและนำไปปรับใช้โดยองค์กรธุรกิจทั่วโลก เป็นการพิสูจน์ว่าการทำธุรกิจสามารถสร้างกำไรควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์ให้สังคมได้
- การพัฒนาระบบเกษตรกรรมแบบครบวงจรที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในหลายประเทศ ระบบนี้ไม่เพียงสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้เกษตรกร แต่ยังช่วยพัฒนามาตรฐานการผลิตอาหารให้ปลอดภัยและยั่งยืน
ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
- การปฏิวัติวงการค้าปลีกในประเทศไทยผ่านการนำ 7-11 เข้ามา สร้างมาตรฐานใหม่ในการให้บริการและเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค รวมถึงสร้างโอกาสการจ้างงานให้กับคนไทยนับแสนตำแหน่ง
- การเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างไทยกับจีน ซึ่งไม่เพียงสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในทุกมิติ
ภาคผนวก
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม
เรื่องราวน่าสนใจที่ไม่ได้กล่าวถึง
เบื้องหลังความสำเร็จของธนินท์มีเรื่องราวน่าสนใจมากมาย เป็นคนที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย แม้จะเป็นมหาเศรษฐี ยังคงรับประทานอาหารไทยๆ ธรรมดา และชอบสวมเสื้อผ้าแบบเรียบ ๆ ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเป็นประจำ และมักตื่นเช้าเพื่อเริ่มงานตั้งแต่ตี 5 นอกจากนี้ ยังเป็นนักอ่านตัวยง โดยเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจและเทคโนโลยี
คำพูดจากคนรอบข้าง
- “คุณพ่อสอนให้เราเห็นว่าความสำเร็จต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสังคม” – ศุภชัย เจียรวนนท์ (บุตรชาย)
- “เจ้าสัวธนินท์เป็นแบบอย่างของการเป็นนักธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์และคุณธรรม” – ผู้นำธุรกิจไทย
- “มักจะบอกว่าต้องมองไกลกว่าผลกำไร ต้องสร้างประโยชน์ให้สังคม” – ผู้บริหารเครือซีพี
เรื่องเหลือเชื่อ
- การตัดสินใจลงทุนในประเทศจีนตั้งแต่ยุคแรก เมื่อหลายคนยังไม่เห็นโอกาส
- การพลิกโฉมวงการค้าปลีกไทยด้วย 7-11 จนมีสาขามากกว่า 12,000 แห่ง
- การสร้างเครือซีพีจากธุรกิจครอบครัวเล็กๆ สู่บริษัทระดับโลกใน 21 ประเทศ
ถ้าไม่มีธนินท์ เจียรวนนท์
- การพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรของไทยอาจช้ากว่านี้
- ความสัมพันธ์ทางการค้าไทย-จีนอาจไม่แน่นแฟ้นเท่าปัจจุบัน
- วงการค้าปลีกไทยอาจพัฒนาช้ากว่านี้มาก
- แนวคิดการทำธุรกิจแบบ “3 ประโยชน์” อาจไม่แพร่หลาย
- โอกาสการจ้างงานและการพัฒนาบุคลากรในประเทศไทยอาจน้อยกว่านี้

